บทสวด ปฏิจจสมุปบาท และ บทสวด อานาปานสติ ความยาว 3 ชั่วโมง 9 นาที


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท และ บทสวด อานาปานสติ ความยาว 3 ชั่วโมง 9 นาที


บทสวด ปฏิจจสมุปบาท MP3 24 จบ ฟังยาวได้เลย 2 ชั่วโมง 49 นาที


พุทธวจนคืออะไร

วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2561

บทสวด ปฏิจจสมุปบาท และ บทสวด อานาปานสติ ความยาว 3 ชั่วโมง 9 นาที

ที่มา Downmerng Ar



บทสวด ปฏิจจสมุปบาท และ บทสวด อานาปานสติ ความยาว 3 ชั่วโมง 9 นาที คำสอนพระตถาคต บทสวด ปฏิจจสมุปบาท อิธะ ภิกขะเว อะริยะสาวะโก ปะฏิจจะ สะมุปปาทัญเญวะ สาธุกัง โยนิโส มะนะสิกะโรติ -ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมกระทำไว้ในใจโดยแยบคายเป็นอย่างดี ซึ่งปฏิจจสมุปบาทนั่นเทียว ดังนี้ว่า อิมัส๎มิง สะติ อิทัง โหติ -เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้ย่อมมี อิมัสสุปปาทา อิทัง อุปปัชชะติ -เพราะความเกิดขึ้นแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น อิมัส๎มิง อะสะติ อิทัง นะ โหติ -เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้ย่อมไม่มี อิมัส๎สะ นิโรธา อิทัง นิรุชฌะติ -เพราะความดับไปแห่งสิ่งนี้ สิ่งนี้จึงดับไป ยะทิทัง -ได้แก่สิ่งเหล่านี้ คือ อะวิชชาปัจจะยา สังขารา -เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย สังขาระปัจจะยา วิญญาณัง -เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ วิญญาณะปัจจะยา นามะรูปัง -เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมีนามรูป นามะรูปะปัจจะยา สะฬายะตะนัง -เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ สะฬายะตะนะปัจจะยา ผัสโส -เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ ผัสสะปัจจะยา เวทะนา -เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา เวทะนาปัจจะยา ตัณหา -เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา ตัณหาปัจจะยา อุปาทานัง -เพราะมีตัณหาเป็นปัจจัย จึงมีอุปาทาน อุปาทานะปัจจะยา ภะโว -เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมีภพ ภะวะปัจจะยา ชาติ -เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ ชาติปัจจะยา ชะรามะระณัง โสกะปะริ- เทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา สัมภะวันติ -เพราะมีชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะ โสกะ- ปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสะทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ สะมุทะโย โหติ -ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้ อะวิชชายะเต๎ววะ อเสสะวิราคะนิโรธา สังขาระนิโรโธ -เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือ แห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว จึงมีความดับ แห่งสังขาร สังขาระนิโรธา วิญญาณะนิโรโธ -เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ วิญญาณะนิโรธา นามะรูปะนิโรโธ -เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป นามะรูปะนิโรธา สะฬายะตะนะนิโรโธ -เพราะมีความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ สะฬายะตะนะนิโรธา ผัสสะนิโรโธ -เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ จึงมีความดับแห่งผัสสะ ผัสสะนิโรธา เวทะนานิโรโธ -เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา เวทะนานิโรธา ตัณหานิโรโธ -เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ตัณหานิโรธา อุปาทานะนิโรโธ -เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน อุปาทานะนิโรธา ภะวะนิโรโธ -เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ภะวะนิโรธา ชาตินิโรโธ -เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ชาตินิโรธา ชะรามะระณัง โสกะปะริเทวะ ทุกขะโทมะนัสสุปายาสา นิรุชฌันติ -เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสะ ทั้งหลายจึงดับสิ้น เอวะเมตัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ นิโรโธ โหตีติ -ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้ ดังนี้ นิทาน. สํ. ๑๖/๘๕/๑๕๙

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น