ที่มา Dhammadotcom
วันเวลาไม่ได้มีผลอะไร
ความคิดของเราให้ค่าแต่ละวันไม่เหมือนกันเอง
อย่างเราตื่นมาแล้ว จำวันผิด
เราตื่นมาวันจันทร์ นึกว่าวันนี้วันศุกร์แล้ว สบายใจ
พอนึกได้อีกทีว่าวันนี้วันจันทร์
คราวนี้ตาเหลือกเลย ตะลีตะลานตาเหลือก
อยู่ที่ใจเราไม่เท่ากัน ใจเราให้ค่าไม่เท่ากัน
วันแต่ละวันมันก็เหมือนๆ กัน
ใจเราต่างหากที่แตกต่าง
เวลาเราหัดภาวนาใหม่ๆ
เราก็ดู แต่ละวันใจเราไม่เหมือนกัน
พอเราภาวนามากขึ้นๆ เราจะพบว่า
วันเดียวกัน เช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ ดึก ก็ไม่เหมือนกัน
เคยรู้สึกไหม ใครรู้สึกได้
วันเดียวกัน ความรู้สึกเราเปลี่ยนเป็นระยะๆ
ช่วงเช้า ความรู้สึกอย่างหนึ่ง
สายๆ ความรู้สึกอย่างหนึ่ง
กลางวัน บ่าย เย็น ค่ำ ดึก
ความรู้สึกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
บางทีเราก็โทษบรรยากาศ โทษโน่น โทษนี่
ที่จริงความคิดเราทั้งนั้น ให้ค่าที่แตกต่างกันออกมา
ทีนี้ เราหัดภาวนาแค่นี้ยังไม่พอ หยาบเกินไป
ดูเป็นวันๆ นี่ หยาบมาก
ดูแต่ละวันเป็นช่วงเวลา ก็ยังหยาบอยู่
ถ้าดูละเอียด คือดูเป็นขณะๆ ไป เราจะเห็น
ว่าใจเราไม่ได้เปลี่ยนเฉพาะเช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ ดึกหรอก
ใจเราเปลี่ยนทุกๆ ขณะ
ขณะที่มองเห็น ใจเราก็เปลี่ยน
ขณะที่หูได้ยินเสียง ใจเราก็เปลี่ยน
ขณะที่จมูกได้กลิ่น ลิ้นกระทบรส
กายกระทบสัมผัส ใจคิดนึก
ความรู้สึกก็เปลี่ยน
ฉะนั้น มีผัสสะ มีการกระทบอารมณ์
ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจเกิดขึ้น
จิตใจทำงานไป ความรู้สึกมันก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
เวลาที่เราปฏิบัติภาวนา
ถ้าเราจะดูจิตดูใจตัวเอง
เราก็ดูความเปลี่ยนแปลงของจิตใจ
ที่ตามหลังการกระทบอารมณ์มา
-- พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช วัดสวนสันติธรรม
๒๕ มีนาคม ๒๕๖๑ ไฟล์ 610325A ซีดีแผ่นที่ ๗๕
ติดตามข่าวสาร อ่านพระธรรมคำสอน และดาวน์โหลดไฟล์เสียง (mp3) พระธรรมเทศนาหลวงพ่อปราโมทย์ และฆราวาสผู้ช่วยสอนได้ที่เว็บไซต์ทางการ www.dhamma.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น